วิธีดูแลรักษาเกียร์ทดรอบเหล็กหล่อ

กียร์ทดรอบ (Gearbox) ที่มีเสื้อเกียร์ทำจากเหล็กหล่อ (Cast Iron) นั้นขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานและเสถียรภาพในการใช้งานหนัก อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสียหายต่อเฟืองภายในและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด แม้ว่าวัสดุจะแตกต่างกัน แต่หัวใจหลักของการดูแลยังคงอยู่ที่ น้ำมันหล่อลื่น และ การจัดการความร้อน


1. การจัดการน้ำมันหล่อลื่นและสิ่งปนเปื้อน

น้ำมันหล่อลื่นคือชีวิตของเกียร์ทดรอบทุกชนิด และเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ต้องดูแล

  • ตรวจสอบระดับและเปลี่ยนถ่ายตามกำหนด: ตรวจสอบระดับน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามตารางการเปลี่ยนถ่ายที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด (โดยทั่วไปน้ำมันจะเสื่อมสภาพตามเวลาการทำงาน หรือการสะสมของความร้อน)
  • เลือกความหนืดให้ถูกต้อง: ใช้น้ำมันที่มี ค่าความหนืด (Viscosity) และ ประเภท ที่ตรงตามคู่มือเท่านั้น การใช้น้ำมันผิดเกรดจะทำให้เกิดฟิล์มน้ำมันที่ไม่เพียงพอและเกิดการสึกหรอรุนแรงได้
  • ป้องกันความชื้นและฝุ่นเข้าสู่ระบบ:
    • Breather Plug: ตรวจสอบว่า ช่องระบายอากาศ (Breather) สะอาดและไม่ถูกอุดตัน
    • Desiccant Breather: หากเกียร์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย ควรพิจารณาใช้ Breather แบบ มีสารดูดความชื้น (Desiccant) เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศชื้นเข้าสู่เกียร์ ซึ่งความชื้นจะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพและทำให้เกิดสนิมภายในเสื้อเกียร์เหล็กหล่อได้

2. การควบคุมความร้อนและอุณหภูมิ

เสื้อเกียร์เหล็กหล่อมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ ต่ำกว่า อะลูมิเนียมเล็กน้อย จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้งานต่อเนื่องภายใต้โหลดหนัก:

  • เฝ้าระวังอุณหภูมิ: ตรวจสอบอุณหภูมิภายนอกของเสื้อเกียร์เป็นประจำ หากอุณหภูมิสูงเกิน $90 \text{ องศาเซลเซียส}$ หรือรู้สึกร้อนจัดเมื่อสัมผัส อาจเกิดจาก:
    • น้ำมันต่ำเกินไปหรือเสื่อมสภาพ
    • มีการใส่โหลดเกินพิกัด (Overload)
    • การจัดตำแหน่งเพลา (Alignment) ไม่ถูกต้อง
  • ตรวจสอบการจัดตำแหน่ง (Alignment): การจัดแนวแกนเพลาของมอเตอร์และเกียร์ให้ตรงกันอย่างสมบูรณ์ จะช่วยลดแรงเสียดทาน, การสั่นสะเทือน, และความร้อนที่เกิดจากภาระงานด้านข้าง (Side Load) ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของแบริ่งและซีล

3. การตรวจสอบความสมบูรณ์ทางกล

เหล็กหล่อทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่การตรวจสอบรอยร้าวและการสึกหรอทางกลยังคงจำเป็น

  • ตรวจสอบรอยรั่วและซีล: ตรวจสอบรอยรั่วของน้ำมันตามรอยต่อและโดยเฉพาะที่ ซีลเพลา (Shaft Seals) หากซีลเสื่อมสภาพจะทำให้น้ำมันรั่วและดึงดูดสิ่งสกปรกเข้าสู่ภายใน
  • สังเกตสัญญาณผิดปกติ: ฟังเสียงเกียร์ขณะทำงาน หากมี เสียงดัง (Knocking), เสียงหอน (Howling), หรือ การสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้น ให้หยุดการทำงานและตรวจสอบทันที เพราะเป็นสัญญาณแรกเริ่มของปัญหาเฟืองหรือแบริ่งที่กำลังจะเสียหาย
  • การป้องกันสนิมภายนอก: แม้จะแข็งแกร่ง แต่เหล็กหล่อก็สามารถเกิดสนิมภายนอกได้ง่ายเมื่อสัมผัสความชื้น ควรดูแลชั้นสีเคลือบภายนอกให้สมบูรณ์อยู่เสมอ หากสีหลุดลอกควรทำความสะอาดและทาสีป้องกันสนิมใหม่ทันที